เกี่ยวกับเอกสาร
ในปี พ.ศ. 2558 ประเทศไทยและสมาชิกอาเซียนอื่นๆจะรวมตัวกันเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community: AEC) อย่างสมบูรณ์ซึ่งจะมีผลให้ประเทศสมาชิกอาเซียนทั้ง 10 ประเทศนั้นมีตลาดและฐานการผลิตเดียวกัน (Single Market and Production Base) และจะกลายเป็นตลาดการค้า การลงทุนที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 9 ของโลกที่มีจํานวนประชากรรวมกันมากกว่า 600 ล้านคนอันจะส่งผลทําให้ประเทศไทยและสมาชิกอาเซียนต่างๆ มีโอกาสที่แสวงหาประโยชน์จากขยายขอบเขตทางการค้า การลงทุน และสร้างพันธมิตรทางเศรษฐกิจที่จะเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของตนได้มากขึ้นในอนาคต ซึ่งในบรรดาสมาชิกประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนต่างๆ นั้น สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ ถือได้ว่าเป็นประเทศหนึ่งที่มีศักยภาพ และมีความเหมาะสมต่อการขยายฐานการค้าการลงทุนของไทยเป็นอันดับแรกๆ ที่มีผู้ประกอบการและนักลงทุนไทยจํานวนมากต้องการที่จะขยายฐานการลงทุน และเข้าไปเปิดตลาดการค้า เนื่องจากเป็นประเทศมีแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์ มีประชากรวัยแรงงานจํานวนมาก และมีความใกล้ชิดกับประเทศไทยทั้งทางด้านอาณาเขต สังคม และวัฒนธรรมอีกทั้งผลจากทิศทางการปฏิรูปประเทศที่มีการพัฒนาเป็นลําดับอย่างชัดเจนในปัจจุบันยังส่งผลให้เมียนมาร์มีแนวโน้มได้รับคืนสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป (Generalized System of Preferences: GSP) จากประเทศผู้นําเข้ารายสําคัญๆ ของโลก เช่น สหภาพยุโรป และสหรัฐอเมริกา อีกด้วย ปีที่พิมพ์ : 2557