เกี่ยวกับเอกสาร
เวียดนามเป็นประเทศผู้ใช้ถ่านหินหนึ่งใน 20 อันดับแรกของโลกกำลังก้าวเข้าสู่การเปลี่ยนผ่านพลังงานตามแผนพัฒนาไฟฟ้าแห่งชาติเวียดนาม สำหรับปี 2564-2573 ด้วยวิสัยทัศน์สู่ปี 2050 หรือที่รู้จักกันในชื่อแผนพัฒนาพลังงาน ฉบับที่ 8 (Power Development Plan 8: PDP8) ซึ่งผ่านการอนุมัติไปเมื่อกลางเดือน พ.ค. นี้
ร่างแรกของ PDP8 ถูกเสนอต่อรัฐบาลตั้งแต่ มี.ค. 2564 ผ่านการหารือและแก้ไขหลายครั้งจนมีร่างที่ได้รับการเผยแพร่กว่า 10 ร่าง การอนุมัติแผน PDP8 ที่ล่าช้าจากปี 2564 กระทบต่อการเปลี่ยนผ่านพลังงานของเวียดนามที่ประสบปัญหาโครงการด้านพลังงาน เช่น โครงการไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ โครงการพลังงานลมนอกชายฝั่งในเวียดนาม ที่ต้องหยุดชะงักจากอุปสรรคทางกฎหมายและเทคนิค
PDP8 มุ่งปรับปรุงความมั่นคงทางพลังงานของประเทศและตั้งแผนงานสำหรับการพัฒนาพลังงานสู่พลังงานสีเขียว เพื่อบรรลุเป้าหมาย Net Zero ในปี 2593 ซึ่งแผนครอบคลุมประเด็นสำคัญต่าง ๆ รวมถึงการเชื่อมโยงโครงข่ายไฟฟ้ากับประเทศเพื่อนบ้าน
เดิมตามแผนพัฒนาพลังงาน ฉบับที่ 7 (PDP7) ในปี 2573 เวียดนามจะยังมีสัดส่วนการพึ่งพาพลังงานถ่านหินสูง แต่ภายใต้แผนพัฒนาพลังงานฉบับใหม่ PDP8 นี้ ในสัดส่วนพลังงานของประเทศปี 2573 เวียดนามจะลดสัดส่วนพลังงานถ่านหินเหลือราว 20% และเพิ่มสัดส่วนของพลังงานหมุนเวียนอย่างพลังงานน้ำ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และพลังงานชีวมวลเป็นเท่าตัว รวมถึงสัดส่วนของพลังงานจากก๊าซธรรมชาติจะเพิ่มเกือบเท่าตัวเช่นกัน
นอกจากนี้ แผน PDP8 ยังให้ความสำคัญกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในการผลิตพลังงานไฟฟ้า โดยตั้งเป้าระดับการปล่อยสูงสุดไม่เกิน 170 ล้านตันภายในปี 2573 และหากมองไปในอนาคตตามแผนนี้ ภายในปี 2593 พลังงานจากถ่านหินจะถูกยกเลิกเกือบหมด ขณะที่พลังงานหมุนเวียนจะเติบโตขึ้นอย่างมหาศาล ครองสัดส่วนราว 70% ของสัดส่วนพลังงานเวียดนาม และสามารถผลิตไฟฟ้าได้ 80% ของไฟฟ้าทั้งหมด
ในการลงทุนแหล่งพลังงานและการพัฒนาระบบส่งไฟจะอยู่ที่ราว 1.34 แสนล้านดอลลาร์ในช่วงปี 2564-2573 และ 3.99-5.23 แสนล้านดอลลาร์ในช่วงปี 2574-2593 ความท้าทายสำคัญคือ เวียดนามเหลือเวลาไม่ถึง 7 ปี ในการเพิ่มกำลังการผลิตพลังงานเป็นสองเท่าเทียบกับปัจจุบัน พร้อมทั้งต้องลงทุนจำนวนมากในระบบโครงข่ายไฟฟ้า
เป้าหมายในการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสีเขียวนี้ต้องการกลไกเฉพาะเพื่อดึงดูดเงินทุนมหาศาล รวมถึงเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุด ทั้งจากในและนอกประเทศ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม การอนุมัติแผน PDP8 นี้จะเป็นก้าวสำคัญในการบรรลุกรอบของรัฐบาลเวียดนามในการปฏิรูประบบพลังงานเพื่อสนองต่อความต้องการที่จะเกิดขึ้น
แน่นอนว่าต่อจากนี้เวียดนามต้องเร่งกำหนดเครื่องมือทางกฎหมายเพื่อดำเนินการตาม PDP8 และต้องจัดหาเงินทุนสำหรับแผนการลงทุนนี้ที่ตั้งไว้สูงมาก การปฏิรูปในด้านต่าง ๆ จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำ รวมถึงการเปิดให้มีการลงทุนในด้านโครงสร้างพื้นฐานของเวียดนามจากต่างประเทศ เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานภายใต้แผนใหม่นี้ โดยเฉพาะในช่วงที่มีวิกฤติด้านพลังงานหรือสภาพอากาศในฤดูร้อนที่มีการใช้พลังงานสูงมาก
ผู้เขียน
ภัชชา ธำรงอาจริยกุล
นักวิจัย
สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (ITD)
www.itd.or.th
ตีพิมพ์ : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ Section : First Section/World Beat
ปีที่ 36 ฉบับที่ 12391 วันพุธที่ 31 พฤษภาคม 2566หน้า 8 (ล่าง) คอลัมน์ “Asean Insight”