หลักการและเหตุผล
ประเทศไทยกำลังประสบปัญหาหลากหลายด้าน ส่งผลให้สถิติการค้าและการลงทุนไม่สู้ดีนัก รายงานการค้าไทยโดยกระทรวงพาณิชย์ระบุว่าในปี 2561 ประเทศไทยมีดุลการค้าเป็นบวกอยู่ที่ประมาณ 44 ล้านบาท อย่างไรก็ตามการค้าลดตัวลงร้อยละ 89 เมื่อเทียบกับปีก่อน นอกจากนี้อัตราการลงทุนในไทยจากต่างประเทศก็น่าเป็นห่วง โดยมีมูลค่าประมาณ -5.6 พันล้านบาท ในปี 2561 เป็นขาลงอย่างต่อเนื่องจากปี 2560 ซึ่งอัตราอยู่ที่ -4 พันล้านบาท และแย่กว่าอัตราที่ -9 ร้อยล้านบาทในปี 2008 ซึ่งเกิดวิกฤติเศรษฐกิจโลก
ในปี 2563 สภาพเศรษฐกิจของประเทศไทยโดยรวมอาจยังประสบปัญหาเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยธนาคารโลกและธนาคารแห่งประเทศไทยคาดคะเนว่า GDP ของประเทศไทยจะอยู่ที่ 2.7% และ 2.5% ตามลำดับ ซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำกว่าโดยปกติ (3%) ทั้งนี้ล้วนเป็นผลมาจากหลากปัจจัย เช่น ภัยแล้ง ที่ลดปริมาณผลผลิตทางการเกษตรของไทย การชะลอตัวการค้าในเศรษฐกิจโลก อันเป็นผลมาจากสงครามการค้าระหว่างอเมริกาและจีน และวิกฤติทางสิ่งแวดล้อม ที่ส่งผลกระทบเชิงลบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ
ถึงแม้ประเทศไทยจะประสบปัญหาทางเศรษฐกิจอย่างหนัก ประเทศไทยยังสามารถมองหาโอกาสใหม่ผ่านการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ รัสเซียซึ่งปัจจุบันมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ 11 ของโลกและนำโดยผู้นำ วลาดีมีร์ ปูติน กำลังมุ่งเน้นนโยบาย Look East นั่นคือการผูกสัมพันธ์กับประเทศแถบตะวันออกผ่านการค้าและการลงทุน โดยริเริ่มตั้งแต่ปี 2558 อย่างไรก็ตามถึงแม้รัสเซียจะเผชิญการลงโทษทางการค้าเกี่ยวกับยุทโธปกรร์ตั้งแต่ปี 2557 จากประเทศกลุ่มยุโรป อันเนื่องมาจากการทะเลาะกับยูเครน รัสเซียยังสามารถคงการเติบโตทางเศรษฐกิจให้อยู่ที่ร้อยละ 2 ในปัจจุบันคิดเป็น 1.6 ล้านล้านดอลล่าสหรัฐ (รายงาน GDP ปี 2014ธนาคารโลก)
ไทยและรัสเซียมีความสัมพันธ์อันดีระหว่างกันตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ทั้งไทยและรัสเซียยังอยู่ในความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (APEC) และเจรจาทางการเมืองต่อกันหลายครั้ง หากประเทศไทยสามารถเปิดตลาดเสรีทารงการค้าและการลงทุนกับรัสเซีย ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่ม Commonwealth of Independence State เป็นไปได้ว่าประเทศไทยจะได้โอกาสในการสานสัมพันธ์กับประเทศอื่นในกลุ่มสมาชิกนั้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการแลกเปลี่ยนทรัพยากรธรรมชาติและทรัพยากรมนุษย์
กระทรวงพาณิชย์ของประเทศไทยเล็งเห็นความสำคัญของการเปิดตลาดเสรีดังกล่าว และได้ริเริ่มเจรจาการค้าในปี 2561 ซึ่งตรงกับช่วงเวลานโยบาย Look East ของรัสเซีย อย่างไรก็ตามไทยขาดดุลการค้ากับรัสเซียอยู่ที่ 38 พันล้านบาท และการค้าหดลงร้อยละ 16.4 เมื่อเทียบกับปีก่อน (รายงานการค้าไทยปี 2561 กระทรวงพาณิชย์) แต่ไทยมีแนวโน้มในการลงทุนจากรัสเซียเป็นบวก ซึ่งมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 40 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ (รายงานForeign Direct Investment ปี 2561 ธนาคารแห่งประเทศไทย)
ดังนั้น สถาบันได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการหาโอกาสการค้าและการลงทุนระหว่างไทยและรัสเซียในระยะยาว ซึ่งอาจนำไปสู่โอกาสในการค้าและการลงทุนในประเทศพันธมิตรของรัสเซียในกลุ่มยูโร-เอเชีย และเพื่อสานต่อวิสัยทัศน์ของกระทรวงพาณิชย์ที่ได้ริเริ่มความตั้งใจในการเปิดตลาดเสรีระหว่างไทยและรัสเซีย และสานต่อโครงการการสนับสนุนนักลงทุนไทยไปลงทุนต่างประเทศ ซึ่งสถาบันร่วมจัดกับ Board of Investmentในปี 2561 สำนักความร่วมมือระหว่างประเทศในเบี้องต้นจึงได้กำหนดจัด การสัมมนาพิเศษ Insight Forum ในหัวข้อ “พลิกโอกาสการค้าการลงทุนไทย-รัสเซีย 2020 สู่ตลาดมหภาคยูโร-เอเชีย”
วัตถุประสงค์
เพื่อเผยแผ่ความรู้อุบัติใหม่ ที่มีสาระสำคัญและสนับสนุนความเข้มแข็งเศรษฐกิจไทยในเชิงนโยบายและทิศทางการลงทุนและการค้าโลก
กลุ่มเป้าหมาย
บุคลากรภาครัฐ ภาคเอกชน จำนวนประมาณ 50 คน
กำหนดการ
เอกสารประกอบการสัมมนา
วันที่จัดกิจกรรมและสถานที่จัดงาน
วันที่ 28 มกราคม 2563 เวลา 09.30 – 12.00 น.
ณ ห้องกมลมาศ ชั้น 6 โรงแรม เดอะ สุโกศล กรุงเทพฯ
แบบตอบรับสัมมนาพิเศษภายใต้งาน ITD Insight Forum
ในหัวข้อ “พลิกโอกาสการค้าการลงทุนไทย-รัสเซีย สู่ตลาดมหภาคยูโร-เอเชีย”
คลิกตรงนี้ ใบตอบรับ โอกาสการค้าการลงทุนไทย-รัสเซีย
บทความสรุป
เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบงาน
นางสาวอรณัฐ บุปผเวส
นักบริหารโครงการ
สำนักความร่วมมือระหว่างประเทศ
สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา
โทรศัพท์: 02 216 1894-7 #101